วันอังคารที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551

จำเลยรัก ตอนที่ 6-10

จำเลยรัก ตอนที่ 6

หฤษฎ์พาโศรยาออกจากบ้านไปที่ชายทะเล เขามัดเธอติดกับต้นไม้ริมหาดแล้วตัวเองก็ลงไปเล่นน้ำ โศรยาฮึดอัดพยายามดึงมือออก เธอให้สัญญาว่าจะไม่ให้หฤษฎ์ไปทำอะไรศันสนีย์แน่ และเธอก็จะไม่ยอมตายที่นี่แน่ หฤษฎ์ว่ายเข้าฝั่ง เดินลุยน้ำกลับมา โศรยาทำทีเป็นนั่งนิ่งเฉย

ขอโทษนะ นานหน่อย เพราะตั้งแต่มีนักโทษมาอยู่ที่เกาะเนี่ย ผมไม่มีเวลาได้ออกมาว่ายน้ำตอนเช้าเลย เอาไว้วันหลัง จะให้คุณออกไปว่ายออกกำลังบ้าง แต่คงต้องเป็น ดงฉลามหลังเกาะ”หฤษฎ์ยิ้มร้ายดึงเชือกออกจากมือโศรยา แล้วฉุดโศรยาลุก ลากเดินไป ใบ้กับบุญทายซุ่มดูอยู่ บุญทายจะตาม

พอถึงเรือนใหญ่ หฤษฎ์ก็หอบผ้ากองโตมาให้โศรยาซักด้วยมือ

ที่บ้านของศุภฤกษ์ ศันสนีย์โวยวายเอากับเตยที่เอาเสื้อผ้าเธอไปซักเครื่อง สายสมรคิดจะโทรตามโศรยามาใช้งาน แต่ศุภฤกษ์ขัดอย่างไม่เห็นด้วยว่า ควรให้โศรยาได้พักบ้าง แล้วก็เตือนลูกสาวว่าควรจะสอนเตยเรื่องใช้งาน สองแม่ลูกถึงกับเถียงไม่ออก

หฤษฎ์นั่งคุมโศรยาซักผ้าแล้วหาทางแกล้งตลอดเวลา ในที่สุดเขาก็รู้ว่าเธอกลัวน้ำ เมื่อเขาพูดกระทบใจดำ เธอลุกพรวดขึ้นอย่างโกรธจัด

ใครบอกว่าฉันกลัวน้ำ อย่ามาทำเป็นรู้ดี น้ำตกฉันก็ข้ามมาแล้ว”ข้ามทั้งๆ ที่กลัวไง แต่ทะเลน่ะคุณ เคยได้ยินมั้ย ว่าคืบก็ทะเลศอกก็ทะเลผลุบหายลงไป งมไม่เจอเลยนะ” หฤษฎ์หัวเราะเยาะ

โศรยาตัดบท หันกลับไปที่กะละมังผ้า “พูดมาก ถอยไป ฉันจะซักให้เสร็จๆ อ้อ แต่ถ้าน้ำหมดโอ่งก่อน ก็ช่วยไม่ได้นะ!” ถ้าน้ำหมด คุณก็ไปตักมาใหม่ ไม่เห็นยาก! ซักไป! เดี๋ยวผมจะมาดู”หฤษฎ์สลัดฟองผงซักฟอกใส่โศรยาแล้วเดินเข้าบ้านไป โศรยาได้แต่โมโหอยู่คนเดียว

โศรยาซักผ้าตากเรียบร้อย หฤษฎ์ก็ใช้ให้เธอไปตักน้ำใส่โอ่งให้เต็ม โดยให้นายใบ้คอยควบคุม เธอไปตักน้ำในลำธารหิ้วมาด้วยความเหน็ดเหนื่อยมาก เพราะนายใบ้บังคับให้เธอขึ้นไปตักเหนือน้ำ ใบ้เองสงสารอยากจะช่วยแต่ไม่กล้า กลัวหฤษฎ์เล่นงาน ใบ้จึงใช้วิธีช่วยหิ้วน้ำจากลำธารมาส่งให้เธอหิ้วต่อครึ่งทาง หฤษฎ์มองด้วยความสงสัยถามว่าเต็มหรือยัง เธอบอกว่าเต็มแล้ว

ฉันว่าสี่ห้าเที่ยวหลังเนี่ย เดินเร็วขึ้นนะ อย่าให้รู้ว่าแกขัดคำสั่งฉันนะใบ้ ขึ้นมานี่! คุณนั่นแหละ ศันสนีย์”โศรยาเดินเข้าไปหาหฤษฎ์ ใบ้ยืนนิ่งรู้ว่านายจับได้ หฤษฎ์ไล่ใบ้ไป ก่อนหันมาตะคอกโศรยา

เดินให้มันเร็วเหมือนตอนไปตักน้ำสิ”หฤษฎ์มองใบ้ ใบ้ก้มหน้าเดินออกไป โศรยาชำเลืองใบ้อย่างมีพิรุธแล้วรีบเดินไปหาหฤษฎ์ที่จ้องอยู่ หฤษฎ์เดินมานั่งวางท่าเจ้านาย โศรยาเดินตามมาหยุดยืนมอง

คุณมีอะไรจะหาเรื่องฉันอีก”อย่าคิดว่าผมไม่รู้นะ ว่าคุณกับใบ้ ทำอะไรกัน”โศรยาตกใจ “ทำอะไร? คุณคิดอะไรสกปรก!! บอกมานะ”สกปรกเหรอ? งั้นก็แปลว่าคุณทำอะไรกันมากกว่าที่ผมคิดละสิ?”โศรยาโกรธ “คุณคิดอะไรแค่ไหน ฉันไม่รู้ แต่ที่คุณพูดน่ะ มันสกปรก”ใช่! สกปรก ผมถือว่าใครก็ตามที่ทำผิดกติกาที่ผมตั้งไว้ คือการเล่นสกปรก คุณให้ใบ้ช่วยหิ้วน้ำ ตักน้ำแทน คิดว่าผมโง่ ไม่รู้ทันงั้นเหรอ?”โศรยาโล่งใจที่หฤษฎ์หมายถึงเรื่องตุกติก ค่อยคลายโมโหลง หฤษฎ์เว้นวรรค แต่ประโยคต่อมา

คงใช้มารยาแบบเดียวกับที่ใช้กับหริณ ไอ้ใบ้มันไม่มีสมองพอที่จะตามเล่ห์เหลี่ยมคุณทันหรอก ยั่ววิธีไหนล่ะ มันถึงใจอ่อนช่วย!”โศรยาความโกรธพุ่งขึ้น “นายหฤษฎ์ มันจะมากไปแล้วนะ!”เลือกหน่อยสิ เลือกหน่อย จะอ่อยใครก็เลือกหน่อย หรือคิดว่าคนงานล่ำๆ จะมีรสชาติน่าลอง ก็เลยเกี่ยวเอาไว้ใช้งาน”โศรยาถูกหยาม เลือดขึ้นหน้า ตบผัวะเข้าเต็มๆ หฤษฎ์หน้าหันคว้ามือโศรยาบิด “อย่าดูถูกกันนักนะ นายหฤษฎ์”แทงใจดำละสิ ผู้หญิงอย่างคุณ มารยาเยอะนัก ไอ้หน้ากากที่สวมอยู่น่ะ ทำผู้ชายตายไปคนหนึ่งแล้ว น้องผม โน่น” หฤษฎ์ชี้รูปหริณ “แต่ถ้าจะมาล้อเล่นกับพวกแรงม้าอย่างไอ้ใบ้ละก็ คุณจะเป็นคนตายเอง!เตือนซะก่อน”นายหฤษฎ์” โศรยาเงื้ออีกมือขึ้นจะตบซ้ำ หฤษฎ์คว้ายึดไว้ได้ทั้งสองมือ

คุณทำอะไรผมไม่ได้หรอก ศันสนีย์ ถ้าแรงเยอะนัก ก็สวมบทกุลสตรีทำงานบ้านต่อดีกว่ามั้ง โน่น ทำความสะอาดบ้านเดี๋ยวนี้เลย!” หฤษฎ์ผลักโศรยาลงไปกองอยู่กับอุปกรณ์ทำความสะอาดบ้าน โศรยาป่ายไปโดนถังน้ำโครมคราม โศรยาคว้าไม้กวาดได้ ตบลงกับพื้น ฝุ่นฟุ้ง จามแค่กๆ

ธวัชชัยพาศันสนีย์ไปดูห้องทำงานที่แม่บ้านกำลังทำความสะอาดอยู่ ทำให้พวกชนิดา นิมิตร คำรพและพนักงานคนอื่นๆ ต่างไม่พอใจที่ศันสนีย์ได้ห้องพิเศษ ศันสนีย์เริ่มอวดภูมิว่าจะทำเรื่องแฟชั่นด้วย แล้วยังเอ่ยถึงโศรยาว่าถ้าอยู่จะให้ช่วยเรื่องคอลัมน์อาหารแต่ตอนนี้หายตัวไป ธวัชชัยฟังแล้วตกใจอาสาจะช่วยตาม แต่ศันสนีย์บอกว่าไม่ต้อง เพราะไม่ใช่เรื่องสำคัญ

หฤษฎ์ใช้ให้โศรยาขัดห้องน้ำ พอเปิดก๊อกน้ำก็ไหลแรงมาก จนเธอต้องออกไปโวยวายที่เขาใช้ให้ไปตักน้ำจากลำธารมาใส่โอ่ง และบอกต่อหน้ารูปของหริณว่าต่อไปจะไม่ยอมทำตามคำสั่งของเขาอีกเด็ดขาด

หฤษฎ์วิ่งมาคว้าตัวโศรยาที่วิ่งหนีชายหนุ่ม แต่สุดท้ายเธอก็ถูกเขาจับได้อุ้มเธอเข้าห้องนอนโยนลงบนเตียง โศรยาร้องให้ใบ้ช่วย

เอาเลย! ร้องเข้าไป ตะโกนให้คอแตกก็ไม่มีใครมาช่วย ตะโกนสิ ตะโกนให้ดังข้ามเกาะไปเลย เอาสิ! อยากตะโกนดังแค่ไหนก็ได้!”โศรยาผลักหฤษฎ์ออก ตัวเองก็กระเถิบหนีไปจนสุดขอบเตียง

ปล่อยฉันไปเถอะ อย่าทำอะไรฉัน นะ นะ ขอร้องละ นายจะใช้ฉันทำอะไรก็ได้ ฉันยอมแล้ว แต่อย่าทำแบบนี้

“แบบนี้น่ะ แบบไหน? ปล้ำกันบนเตียงนุ่มๆ เนี่ยไม่ชอบเหรอ โธ่ จะเล่นแบบพิสดารปล้ำกันในน้ำรึบนภูเขาก็ได้ แต่ต้องไว้วันหลัง วันนี้ที่นี่ก่อน”

หฤษฎ์เอื้อมคว้าตัวโศรยาได้ก็ลากมากดโศรยานอนลง แกล้งกอดปล้ำซุกไซ้ โศรยาดิ้นสุดแรง อึกอักเพราะโดนกดไว้ไม่มีเสียง เธอพยายามพลิกตัวหงายหน้าขึ้น ชายหนุ่มก้มหน้าซุกลงไป เธอตัดสินใจถีบเข้าเป้ากางเกง จนชายหนุ่มเจ็บยิ่งทำให้เขาบ้าระห่ำ

ที่แท้ก็ชอบความรุนแรง!! งั้นต้องเจอแบบนี้ ศันสนีย์!”

ไม่ใช่นะ ไม่ ฉันไม่ใช่”

หฤษฎ์โถมตัวลงทับ โศรยาแน่นิ่งไป หฤษฎ์สะดุดชะงัก ปล่อยมือ มองดูโศรยาที่สลบสนิท หฤษฎ์ถึงกับเซ็ง ผละออกเดินออกไปนอกบ้าน

เป็นจังหวะเดียวกับที่บุญทายเดินขึ้นไป และแฝงกายเข้าไปในห้องนอน พอเห็นโศรยานอนฟุบบนเตียงเธอก็กรี๊ดต่อว่าโศรยาว่าทำอะไรหฤษฎ์

โศรยาค่อยๆ รู้สึกตัวลุกขึ้นอย่างงๆ ก่อนจะร้องบอกให้บุญทายช่วยพาเธอออกไปจากที่นี่

ฉันพาแกออกไปแน่ แต่ต้องให้ฉันรู้ก่อน ว่าแกมาทำอะไรบนเตียงคุณหฤษฎ์!

” ฉันไม่รู้ นี่เขาทำอะไรฉัน”

อย่ามาทำอินโดเซ้นหน่อยเลย ทำกับไม่ทำน่ะ มันรู้สึกไม่เหมือนกันหรอก แกปล้ำเขากับเขาปล้ำแกก็ไม่เหมือนกันด้วย”

โศรยาค่อยๆ นึก แต่ก็ยังหวาดๆ ชูข้อมือที่โดนล่ามเชือกไว้ให้บุญทายดู

งั้นเธอก็ดูสิ ว่าอะไรเป็นอะไร! เขาลากฉันเข้ามาในนี้ แล้วก็

“แล้วก็อะไร โดนหรือไม่โดน”

โศรยานึกครู่หนึ่งแล้วก็ส่ายหน้า บุญทายมองหัวจรดเท้าแล้วจ้องคาดคั้น สุดท้ายก็ยอมเชื่อโศรยา ด้วยความรักและหึงหวงที่บุญทายมีต่อหฤษฎ์ เธอจึงตัดสินใจช่วยโศรยา

....................

จำเลยรัก ตอนที่ 7

คืนนั้นหลังจากปรนเปรอกามารมณ์ให้ใบจนหลับไปแล้ว บุญทายก็ลอบเข้าไปไขกุญแจโซ่ให้โศรยา จากนั้นเธอก็ตบหน้าโศรยาทีหนึ่งโทษฐานที่ไปนอนบนเตียงหฤษฎ์ และสั่งให้เธอรอจนตะวันขึ้น ใบ้ออกไปเก็บไข่ไก่ โศรยาค่อยย่องออกไปทางข้ามน้ำตก ไปที่กระท่อมของเธอก่อน เธอจะรออยู่ที่นั่น แล้วจะพาไปส่งข้ามเขาไปหลังเกาะ ถึงจะมีเรือให้กลับเข้าเมือง โศรยาตื่นเต้นดีใจมาก

เช้าวันรุ่งขึ้นโศรยาหลบหนีออกจากกระท่อม กาหยูเห็นก็ส่งเสียงร้องเกือบทำให้เสียแผน เธอปลิดกล้วยส่งให้กินแล้วรีบเดินไปตามทางที่บุญทายบอกจนถึงกระท่อม บุญทายพาเดินบุกป่าต่อไปจนถึงชายทะเลมีท่าเรือเล็กๆ เก่าๆ อยู่ เธอถามบุญทายว่าที่ไหน

ท้ายเกาะ ไม่ค่อยมีคนมาหรอก

“ที่นายหฤษฎ์เขาบอกว่า เป็นดงฉลามน่ะเหรอ

“ใช่มั้ง” โศรยาผงะถอย

“บ้า! มีที่ไหน ฉลามเฉลิม โผล่ขึ้นมาก็โดนตัดครีบหนีบหูกินหมดแล้ว จะไปไม่ไป”

เรือลำเล็กจอดเกยเสียบเข้ามาหัวหาด โศรยาถลามาที่เรือเห็นน้ำเต็มลำเรือก็หน้าเสีย

เรือรั่ว?!! แล้ว ฉันจะไปได้ยังไงล่ะ บุญทาย”

ใครบอกว่าจะให้พายเรือรั่วนี่ออกไป โง่

“เอ๊า! คำก็โง่ สองคำก็โง่ ก็ถ้าไม่มีเรือ แล้วฉันจะไปจากเกาะยังไงล่ะ

“ฟังนะยะ ไอ้ทิมมันต้องเอาของกินของใช้มาส่งให้ฉันที่นี่ ไม่วันนี้ก็พรุ่งนี้ มันก็ต้องเอาเรือมาอีกลำ รอหน่อยแล้วกัน

“ฉันต้องรอถึงพรุ่งนี้เชียวเหรอ” บุญทายยักไหล่ โศรยามองออกไปนอกฝั่งก็ยังเห็นแต่ทะเลว่างเปล่าก็กลัวจับใจ ยิ่งบุญทายกลับไปไม่ยอมอยู่เป็นเพื่อนต่อ

ที่ท่าเรือตะวันรอน ทิมขับเรือมาส่งหฤษฎ์ หฤษฎ์ขึ้นท่าเรียบร้อยก็สั่งให้รีบกลับ ทิมย้อนถามอย่างกลัวๆ ว่าแล้วบุญทาย หฤษฎ์ถามว่านัดหรือเปล่า ทิมบอกว่าต้องเดินไปตาม หฤษฎ์เลยสั่งให้กลับไปช่วยหวายทำงาน แล้วสั่งห้ามพาบุญทายมาอีก

หฤษฎ์กลับถึงกระท่อมก็รู้ว่าโศรยาหนีไป จึงเรียกใบ้มาดุและตบหน้าฉาดใหญ่ ก่อนที่เขาจะออกไปตามจนถึงริมลำธาร แล้วสั่งให้ใบ้ไปตาม ถ้าไม่พบ เขาจะให้ใบ้รีบลุยน้ำข้ามไป

พอดีจังหวะบุญทายโผล่ออกมาจากพุ่มไม้ริมฝั่งตรงข้าม หฤษฎ์ดึงคอเสื้อนายใบ้แล้วถามว่าบุญทายมาหาบ่อยแค่ไหน ใบ้ก้มหน้านิ่ง

ฉันถามแกอีกคำเดียว บุญทายไปเสนอหน้าคุยกับศันสนีย์ ใช่มั้ย?”

ใบ้พยักหน้า หฤษฎ์ปล่อยมือ หันไปมองอีกฝั่ง บุญทายวิ่งหนี เห็นหลังไวๆ แสบพอกัน!

แกไปทางนั้นแหละ ล่าตัวนักโทษฉันกลับมาให้ได้!”หฤษฎ์เอาเรือเร็วออกวิ่งวนไปรอบเกาะ โศรยาได้ยินเสียงเรือก็ดีใจปรากฎตัวออกไปที่ท่าเรือ แล้วเธอก็รีบวิ่งกลับเพราะเห็นหฤษฎ์ เขาเห็นเธอและจอดเรือเกยพื้นทรายกระโดดลงลุยน้ำขึ้นฝั่งวิ่งตาม

โศรยาวิ่งหนีเข้าป่าสะดุดกิ่งไม้เถาวัลย์ล้มลุกคลุกคลาน แม้ขาจะเจ็บก็ไม่ยอมหยุด ยิ่งได้ยินเสียงชายหนุ่มไล่หลังมาเธอยิ่งเร่งฝีเท้า โศรยาหลบเข้าหลังต้นไม้ใหญ่ยืนหอบเหนื่อย แล้วเท้าเธอก็ไปสัมผัสเข้ากับวัตถุลื่นๆ เย็นๆ เธอแทบช็อก เพราะงูเหลือตัวใหญ่อยู่ที่เท้า เธอกระโดดหนีสุดกำลังออกไปชนกับหฤษฎ์เข้าพอดี เขารวบตัวเธอลากไปที่ชายหาด โศรยาพยายามดิ้น หฤษฎ์เหวี่ยงร่างเธอลงไปกองกับพื้นทราย

ดิ้นทำไม? เดี๋ยวพ่อเอาไปจับมัดไว้กับงูหลามซะหรอก”

กาหยู มันกินกาหยู กาหยูต้องอยู่ในท้องงูนั่นแน่ๆ”

รู้ได้ยังไงว่าเป็นกาหยู อาจจะไม่ใช่ก็ได้

“แต่กล้วย แล้วก็หมวกนั่น หมวกที่นายให้บุญทาย เมื่อเช้ากาหยูไปแย่งมา

“หฤษฎ์ก้มลงบีบไหล่โศรยาให้ลุกขึ้น “แสดงว่ากาหยูตามเธอมา ใช่มั้ย” โศรยาพยักหน้า

“ถ้าอย่างนั้น ก็เธอนั่นแหละที่พามันมาตาย!” ฉันเปล่านะ!”

หฤษฎ์บีบไหล่สองข้างอย่างแรง “ฆาตกรเลือดเย็น บอกแล้วใช่มั้ย คุณว่าไม่มีทางหนีพ้น คิดว่าบุญทายมันเป็นใคร ถึงจะพาเธอรอดไปจากมือฉันได้”

เขาก็เป็นเมีย

“หยุดนะ! คุณทำให้ผมหมดความอดทนแล้ว ต่อไปนี้ อย่าหวังว่าจะได้รับความปรานีใดๆ อีกเลย ไป!

“หฤษฎ์คว้าแขนโศรยา ลากลุยลงไปในน้ำ ตรงไปทางเรือที่จอดพาเธอกลับ

เมื่อถึงกระท่อม หฤษฎ์ทำโทษนายใบ้โดยการเฆี่ยนด้วยหวาย โศรยานั่งคลำข้อเท้าตัวเองที่เจ็บ เธอเห็นความดุร้ายของเขาแล้วรู้สึกกลัวจนหนาวจับขั้วหัวใจ

โหดร้ายที่สุด!! คุณพี่ศันสนีย์จะรู้มั้ยคะ ว่าการที่พี่หักอกหริณ ทำให้ใครต้องเดือดร้อนบ้าง

“เวลาเดียวกันนี้ศันสนีย์กำลังมีความสุขกับการนั่งเรือเที่ยวกับธวัชชัย

เช้าวันใหม่ โศรยาโดนมัด หฤษฎ์ลากออกมาจากห้อง ผลักให้นั่งลงที่เก้าอี้หน้ากระท่อม โศรยาหน้าหงิกจ้อง

หลับสบายดีมั้ย?”โศรยาจ้องหน้าหฤษฎ์ ไม่อยากพูดด้วย ใบ้เดินถือจานไข่ดาวมาวางให้ที่โต๊ะ โศรยาเห็นรอยไหม้ที่แขนใบ้ เป็นแนวหวายหลายแนว หฤษฎ์มองตามแล้วบอกว่าเป็นผลงานของเธอ

ของคนใจโหด นายเป็นคนรึเปล่าเนี่ย ถึงทำกับคนด้วยกันแบบนี้?

” ก็คิดดูสิ ว่าใครเป็นต้นเหตุ? คอยดู ถ้าหนีอีก จะโดนทั้งคู่!”

หฤษฎ์ยิ้มเยาะเหี้ยม อ้อมไปแก้มัดให้โศรยา พอมือเป็นอิสระ โศรยาก็จะทุบหฤษฎ์ แต่หฤษฎ์คว้าข้อมือไว้ทัน

จะไม่กินใช่มั้ย? จะได้มัดไว้อย่างเดิม”

โศรยาสลัดมือออกจากหฤษฎ์ คว้าช้อนจ้องหน้าหฤษฎ์ ก่อนก้มลงตักไข่ดาวกินด้วยความหิว และพอเธอกินเสร็จเขาก็มัดเธอเหมือนเดิม แล้วให้เธอนั่งตากแดดอยู่ โศรยาโมโหต่อว่าเขาแล้วถามว่าเขาฆ่าคนมากี่คนแล้ว หฤษฎ์ชะงักหันมาตวาดว่าเขาฆ่าใคร

ก็ ฉันรู้หรอกน่า นายฆ่าชู้ตายต่อหน้าเมียตัวเอง แล้วเลยเนรเทศเมียไปอยู่ซะไกล แต่ก็นับว่ายังดี ที่นายไม่ฆ่าบุญทายอีกคน”

ผู้หญิงพรรค์นั้น ไม่มีค่าพอที่จะให้มือเปื้อนเลือดหรอก”แบบนี้รึเปล่า? ที่เขาเรียกว่าทั้งรักทั้งแค้น!

“ผมไม่เคยรักผู้หญิงคนนั้น” แต่เขาก็เป็นเมียนายนะ ทีอย่างนี้ทำไมนายไม่รู้สึกผิดบ้าง ถ้าบุญทายเสียใจจนฆ่าตัวตายแบบที่หริณทำ นายจะว่ายังไง”

แล้วมันตายมั้ยล่ะ มันก็ยังลอยหน้ามาสะเออะอยู่แถวนี้ไม่ใช่เหรอ ไม่รู้อะไรแล้วอย่าพูดดีกว่า”หฤษฎ์ทิ้งท้ายอย่างหงุดหงิดแล้วเดินหนีไป ปล่อยให้โศรยาชะเง้อตาม

หฤษฎ์ไปยืนที่ต้นไม้ข้างกระท่อมยื่นส่งผลไม้ให้พวงชมพู โศรยาก็ตามไปจนสุดความยาวของเชือกแล้วพูดต่อในเรื่องที่ค้างอยู่ จึงถูกตวาดกลับ

อย่ามายุ่งเรื่องของผม รู้ดีอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ ว่าบุญทายไม่ได้มีอะไรเกี่ยวข้องกับผมแล้ว รึว่า อยากจะแทนตำแหน่งบุญทาย?”

โศรยาถลาเข้าใส่ จะทุบด้วยสองมือ แต่ก้าวได้นิดเดียวเชือกก็ตึง ไปต่อไม่ได้ หฤษฎ์หัวเราะเยาะ

ปากนายนี่ ทำได้แค่ด่าทอ ส่อเสียด แล้วก็ถ่ายทอดความคิดจากใจสกปรกๆ เท่านั้นน่ะเหรอ

“ใครบอก ปากผมทำอย่างอื่นได้ตั้งมาก อยากรู้มั้ย ว่าทำอะไร”หฤษฎ์ก้าวเข้าหาโศรยา คว้าตัวได้ก็จะก้มลงจูบปากโศรยา โศรยาร้องกรี๊ด ดิ้นหนีจนหลุดมือไป

โสโครก น่ารังเกียจที่สุด”โศรยาวิ่งหนีไปไม่กี่ก้าวขาก็สะดุดเชือกล้ม ใบ้สะดุ้งหันมามอง แต่ช่วยอะไรไม่ได้ หฤษฎ์ก้าวเข้าไปหา ก้มลงดึงโศรยาขึ้นมาไม่ปรานีปราศรัย

สิ่งที่คุณทำกับหริณต่างหาก ที่น่ารังเกียจยิ่งกว่าอะไรทั้งหมด เลิกพูดมากดีกว่า แล้วกลับเข้าไปข้างในซะ ไม่อย่างนั้นผมจะขังคุณไว้ในห้องมืดๆ แทนที่จะล่ามเชือกให้เดินไปไหนมาไหนได้บ้างแบบนี้

“เอาเลย จะฆ่าจะขังจะโบยตี หรือว่าจะทำทารุณยังไงก็ตามใจเลย! ยังไงฉันมันก็นักโทษฉันเลว ไม่มีสิทธิ์อุทธรณ์อยู่แล้วนี่”

หฤษฎ์ลากโศรยาเดินตาม ถูลู่ถูกัง โศรยาพยศดิ้น ดึงจนหฤษฎ์ต้องหยุดหันมอง โศรยามองไปทางใบ้ที่ก้มหน้าก้มตาทำงาน นายตั้งตัวเป็นเจ้าชีวิตคนทุกคนรอบตัว ไม่รู้จักการให้อภัย อย่าว่าแต่คนอื่นอย่างฉันเลย แม้แต่คนที่จงรักภักดี หรือแม้แต่เมียตัวเอง นายยังไม่มีเมตตา ระวังเถอะ ตายไปจะไม่มีใครตักบาตรทำบุญแผ่ส่วนกุศลให้

“ผมไม่ต้องการส่วนบุญของใคร!” เพราะนายคิดแต่เรื่องบาปไง โยนบาปน่ะ ไม่ว่าจะเกิดเรื่องร้ายอะไร เป็นต้องหาแพะรับบาป ถ้าพรุ่งนี้มีใครตาย นายก็จะต้องโทษฉันอีก!

“แล้วคุณคิดอยากให้ใครตายอีกล่ะ”โศรยาจ้องหน้าหฤษฎ์เขม็ง

“ฉันว่านายรู้ดี ว่าฉันคิดอยากให้ใครตาย!” หฤษฎ์จ้องหน้าโศรยาตอบ ขณะที่มือก็กำรอบแขนโศรยาแน่น อย่างจะบีบให้กระดูกป่นคามือ หฤษฎ์เหวี่ยงโศรยาเข้ามาในกระท่อม โศรยากระเด็นตามแรงไปนั่งก้นกระแทก

“เชิญนั่งแช่งนอนแช่งผมให้สบายใจ แต่บอกไว้เลยนะ ว่าคนอย่างผม จะอยู่หรือตาย ไม่ได้เป็นไปตามคำสาปแช่งของใคร”หฤษฎ์จ้องหน้าโศรยาแล้วหันหลังกลับ เดินออกไป ปิดประตูปัง! โศรยานั่งเซ็ง มองรอบตัวในห้องที่ปิดทึบอย่างขัดใจ ก่อนจะลุกเดินไปเดินมา

ผ่านเวลา โศรยาเปลี่ยนอิริยาบถไปดื่มน้ำในขวดจนหมด เอาขวดมาเคาะฝาเคาะพื้นไปเรื่อย

“ฉันจะไม่ยอมตายอยู่ที่นี่ นายหฤษฎ์ นายจะเป็นเจ้าชีวิตฉันไม่ได้”โศรยาเดินไปรอบๆ พยายามมองลอดออกไปข้างนอกก็ไม่เห็นอะไร นอกจากฟ้ามืดๆ กับดาวระยิบ ทำได้แค่หันกลับพิงฝา เลื่อนตัวไถลลงนั่งกองท่าเดิม

วันรุ่งขึ้นหฤษฎ์ใช้โทรศัพท์สั่งงานกวิน โศรยากำลังทำความสะอาดก็คอยตะแคงหูฟังอย่างสนใจ พอวางสายหฤษฎ์ก็สั่งให้เธอเข้าไปทำความสะอาดห้องนอนของเขา ขณะขึ้นไปยืนบนเก้าอี้เพื่อตะกายทำความสะอาดรอบหน้าต่าง เขาก็เข้ามายืนบงการ

ทำให้สะอาด! อย่าสำออย งานเบาๆ แค่นี้ถือว่าพักร้อนจากงานขุดดิน

“เบามากเลย นายจะหาเก้าอี้ที่แข็งแรงกว่านี้มาให้ฉันปีนไม่ได้รึไง” ก็เพราะว่าเก้าอี้มันไม่แข็งแรงน่ะสิ ถึงได้เอามาให้คุณปีน

“เอ๊ะ!” เก้าอี้จะล้ม โศรยาทรงตัวไว้ ”หมายความว่ายังไง”

หมายความว่าผมเป็นทรัพยากรที่มีค่าเกินกว่าจะทำงานกระจอกนั่น แล้วก็ต้องรักษาตัวไม่ให้บุบสลาย ต่างจากพวกเชลย พวกนักโทษเดนตายไร้ค่าอย่างคุณ ร่วงลงมาแข้งขาหักก็ไม่เป็นไร”

โศรยาโมโห ขว้างผ้าขี้ริ้วลงมา หฤษฎ์หลบทัน กระชากเก้าอี้จนล้ม โศรยาร่วงลงมาจุกแอ้ก! นายหฤษฎ์ ทำไมทำกับฉันอย่างนี้!”คุณกล้าดียังไง มาขว้างผ้าขี้ริ้วใส่ผม!” หฤษฎ์กระชากแขนโศรยาให้ลุกขึ้นยืน โศรยาเพลียอยู่แล้วก็เซแซ่ดๆ หฤษฎ์ดึงมาปะทะอก โศรยาผลักออกพร้อมกับทุบสุดแรง หฤษฎ์ขยุ้มไหล่โศรยาจนเจ็บ โศรยาป่ายมือตะกุยเล็บเข้าที่หน้าหฤษฎ์แคว่ก หฤษฎ์แตะดูมีเลือดซึมๆ ที่ข้างแก้มก็โกรธจัด เงื้อจะตบ

เสียงโทรศัพท์ดังแผดขึ้นขัดจังหวะ หฤษฎ์ชะงักแล้วเงื้ออีก เสียงโทรศัพท์ดังอีก หฤษฎ์หันไปคว้าโทรศัพท์แล้วต้องตกใจ เมื่อนายหวานหัวหน้าคนงานบอกว่าจะมีคลื่นใตน้ำ เขากระชากโศรยาออกจากห้องลงเรือนสั่งใบ้ให้ควบคุมเธอไว้ ส่วนเขาจะรีบไปดูฟาร์มมุก

โศรยางงงันมองตามหฤษฎ์ไปพลางถามใบ้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ก็ไม่ได้รับคำตอบใดๆ จากนายใบ้

..............................

จำเลยรัก ตอนที่ 8

หฤษฎ์ไปถึงฟาร์มหอยมุก เขาสั่งให้หวานและคนงานลงไปเก็บหอยมุกขึ้นมาอย่างเร็วที่สุด ตัวเขาเองก็ลงไปช่วยด้วย แม้หอยมุกจะกระจายสูญหายไปบ้างก็ยังดี เขาขอบใจคนงานทุกคนที่ช่วยกัน

หฤษฎ์เดินไปดูคนงานหญิงที่ลำเลียงหอยมุกคัดแล้วเข้ามาวางเรียง กวินบอกว่าถ้าอยู่อีกเจ็ดแปดเดือนคงสวย ว่าแล้วกวินก็ขอเวลาสำรวจความเสียหายก่อน แล้วจะทำรายงานส่งให้ หฤษฎ์ว่าดูแค่ตาเปล่าเขาก็ประมาณความเสียหายได้ จากนั้นก็ให้หวายเรียกประชุม เมื่อคนงานมากันพร้อมหน้า หฤษฎ์ก็ประกาศว่า

“ต่อไปนี้ อย่าละเลยคำเตือนของกรมอุตุฯ จะแม่นหรือไม่แม่น ก็ดีกว่าที่เราจะดูฟ้าดูลมกันเอง”

ทิมบ่นว่า “แต่คราวนี้คลื่นมันมาเร็วพอๆ กับคำเตือนเลยนะครับ ตั้งรับไม่ทัน เลยเสียหายไปเยอะ”

“ไม่เป็นไร ไอ้ที่เสียหายแล้วก็ให้เสียไป เราเคยเสียมากกว่านี้ ใช่มั้ยหวาย”

“ครับ สมัยนายหัวคนเก่า พายุเข้า พังหมด เคยเกือบต้องเลิกกิจการ”

“ฉันจะไม่ยอมให้ธรรมชาติมาทำร้ายเราอีก แต่เราก็ต้องดูแลรักษาธรรมชาติด้วย หอยที่เลี้ยงไว้ หายไปเท่าไหร่นะ กวิน ขอตัวเลขหน่อย”

กวินยื่นสมุดจดตัวเลขให้ดู หฤษฎ์หน้าเจื่อนไปนิดหนึ่ง แล้วสูดลมหายใจลึก ให้กำลังใจตัวเอง

“เราต้องรับซื้อหอยรุ่นใหม่ บอกชาวประมงให้ระวังในการเก็บหอยด้วย ตัวเล็กไป เราไม่รับนะหวาย”

“ครับนายใหญ่”

หฤษฎ์พูดทั้งที่ใจก็ห่วงนักโทษสาวที่บ้านอยู่เหมือนกัน อดไม่ได้ที่จะชำเลืองไปทางเกาะส่วนตัวด้วยความเป็นห่วงโศรยาอยู่เหมือนกัน

หฤษฎ์ไม่รู้ว่าโศรยากำลังถกเถียงกับบุญทายเรื่องที่บุญทายช่วยเหลือไม่จริงใจ บุญทายย้อนว่าเธอทำเต็มที่แล้ว แต่โศรยาไม่มีปัญหาหนีไปเอง ทั้งสองร่ำๆ จะตบตีกัน ใบ้ต้องคอยห้าม

ที่บริษัทของธวัชชัย ศันสนีย์เข้าออฟฟิศมา คำรพยื่นซองให้บอกว่าเป็นต้นฉบับนักเขียนใหม่ส่งมาให้เธอตรวจ ศันสนีย์เกี่ยงว่าเป็นหน้าที่ของชนิดา คำรพบอกว่าชนิดาไปต่างจังหวัด เธอจึงยอมรับมา แล้วก็กลับไปนั่งบ่นในห้อง พอดีธวัชชัยที่อ้างว่าไปต่างประเทศโทรมาถาม เธอก็บอกเรื่องชนิดาไปต่างจังหวัด แต่เธอทำแทนได้ แล้วย้อนถามว่าธวัชชัยจะกลับเมื่อไหร่ ธวัชชัยบอกว่าอีกสองวัน

ศันสนีย์วางสายกระหยิ่มยิ้ม หารู้ไม่ว่าธวัชชัยไม่ได้ไปต่างประเทศ แต่กลับอยู่กับชนิดาที่ต่างจังหวัด ชนิดาอ้อนถามธวัชชัยว่าจะแต่งงานกับศันสนีย์หรือ เขายอมรับว่าใช่ เพราะเขารักศันสนีย์ แต่เขารักชนิดาฉันเพื่อนร่วมงาน ชนิดายอมรับความจริง เธอขอแค่มีงานทำ มีเงินเดือนแล้วก็ได้อยู่ใกล้ๆ ธวัชชัยก็พอแล้ว

กวินตรวจบัญชีปรากฎว่ามีไข่มุกราคาดีหายไป หฤษฎ์สั่งให้ค้นตัวและค้นห้องพักคนงานทุกคน หวายในฐานะหัวหน้าคนงานแสดงความบริสุทธิ์ใจยอให้ค้นตัวและห้องพักเขาก่อน

ผลการตรวจค้นพบไข่มุกที่หาย เด่นลูกชายวัยรุ่นของหวายยอมรับสารภาพว่าเป็นคนขโมยมา หวายเฆี่ยนตีด่าทอลูกชายอย่างรุนแรง หฤษฎ์ห้ามไว้บอกว่าเขาอยากคุยกับเด่น เขาถามเด่นว่าขโมยไปตอนไหนแล้วจะเอาไปทำไม

“ตอน ตอนที่ ที่นายใหญ่กับพ่อ ไปดำน้ำลากหอยที่หายไปครับ”

“จะเอาหอยพวกนี้ไปทำไม แกคิดว่าจะขายได้งั้นเหรอ”

“เดี๋ยวฉันจะอยู่ที่นี่ ช่วยพวกเราทำงาน”

“เปล่าครับ ผมไม่ได้จะเอาไปขายครับ”

เด่นอึกอัก หวายจะโถมเข้าซัดอีก กวินรั้งไว้ เด่นก้มหน้างุด

“ผมจะเอาไป ให้แฟนครับ แฟนผมอยู่กรุงเทพ แฟนผมอยากได้”

“ไอ้ควาย! มึงรักผู้หญิงจนหน้ามืดตามัว ไม่รู้อะไรถูกอะไรผิดเลยเรอะ ถ้าผู้หญิงบอกให้มึงไปตาย มึงจะไปมั้ย”

ได้ยินคำสารภาพกับคำด่าทอ หฤษฎ์ก็รู้สึกเหมือนหริณมายืนตรงหน้า ต้องหันหนีเพราะพูดไม่ออก กวินถามความเห็นหฤษฎ์ว่าจะลงโทษเด่นยังไง หฤษฎ์ไม่เอาความเพราะได้ของคืนแล้ว และไม่อยากให้เด่นเสียอนาคตถ้าเรื่องถึงตำรวจ

หวายลงโทษเด่นโดยให้ออกไปยืนแช่น้ำทะเลตากฝนตะโกนให้คำปฎิญาณซ้ำๆ จนกว่าจะบอกให้หยุดว่า

“ผมจะไม่ทำชั่ว ไม่หน้ามืดตามัวเพราะผู้หญิง ผมจะซื่อสัตย์ครับ”

หฤษฎ์เข้าห้องพักก็คิดถึงคำปฏิญาณของเด่นแล้วก็อดที่จะคิดถึงหริณไม่ได้ เขารู้สึกว่าเด่นโชคดีกว่าน้องเขามาก

เช้าวันใหม่โศรยาลงมารื้อถังน้ำจะไปรดน้ำผัก ขณะที่ใบ้ผ่าฟืนพลางสายตาคอยชำเลืองมอง เธอเห็นก็ประชดโยนเชือกบอกให้มัดเธอ แต่ใบ้ไม่สนใจผ่าฟืนต่อ เศษไม้ท่อนหนึ่งกระเด็นถูกแขนเลือดไหล โศรยาเอายามาใส่แผลให้

บุญทายเข้ามาเห็นก็โวยวายหาว่าโศรยาทำร้ายใบ้ แต่พอรู้เรื่องว่าเป็นอุบัติเหตุจึงเงียบและนั่งคุยกับโศรยา ก่อนจะแยกไปคุยกับใบ้ ขณะนั้นกาหยูก็ส่งเสียงร้องดังอยู่ในกระท่อม ทำให้บุญทายคิดแผนการขึ้นมาได้ บอกกับนายใบ้ว่าหฤษฎ์รักกาหยูมากเพราะเหมือนเป็นตัวแทนหริณ จึงให้ใบ้ดูแลดีๆ เพื่อจะได้มีความดีความชอบจากหฤษฎ์

แต่มีข้อแลกเปลี่ยนคือต้องฆ่าโศรยาทิ้ง ใบ้นั่งคิดแล้วส่ายหน้า สุดท้ายก็วิ่งเข้าไปอุ้มกาหยูออกมาโดยไม่สนใจเสียงเอะอะโวยวายของบุญทาย

ด้านโศรยาก็แอบได้ยินบุญทายบอกให้นายใบ้ฆ่าเธอ โศรยาหนีเข้าป่า นายใบ้วิ่งหาวุ่นวายไม่เจอก็พอดีหฤษฎ์กลับมาถึงเห็นอาการของใบ้ เขารู้ทันทีว่าโศรยาหนีอีกแล้ว

หฤษฎ์กับใบ้ออกติดตามหาโศรยา โดยแยกคนละทาง ท้องฟ้าเริ่มมีเมฆฝนครึ้มและลมแรง สุดท้ายฝนก็โปรยลงมา หฤษฎ์เดินบุกป่าละเมาะไปช้าๆ ท่ามกลางเสียงฟ้าฝน เขาได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือของโศรยาจึงเดินไปตามเสียงจนพบโศรยาติดบ่วงที่ทำไว้ดักสัตว์ห้อยหัวต่องแต่งก็หัวเราะชอบใจ

“คิดว่าจะแน่ ทั้งเซ่อ ทั้งโง่ ยังจะหนีอีก ชาตินี้คุณคงไม่มีหัวคิดอะไรมากไปกว่าการล่อหลอกผู้ชาย คุณหลอกให้ใบ้ไปทางอื่น เพื่อจะได้หนีสะดวกละสิ เสียใจด้วยนะ ผมไม่โง่ปล่อยคุณไว้โดยไม่คิดทำอะไรป้องกันหรอก มันต้องล้อมคอก ก่อนที่วัวอย่างคุณจะหายอีก”

“แล้วจะเอาไปทำไม”

“ปล่อยฉันลงไปนะ!”

“ปล่อยก็โง่สิ ขอผมชื่นชมผลงานตัวเองสักชั่วโมงสองชั่วโมงก่อน”

“ทุเรศ ปล่อยเดี๋ยวนี้นะ!” เสียงฟ้าร้องครืน

“อย่ามาออกคำสั่ง! รู้มั้ยว่าโชคดีแค่ไหน ที่โดนแค่บ่วงห้อยหัวนี่ โน่น ตรงโน้นมีหลุมขวาก รู้จักมั้ยขวากที่เอาไว้ดักสัตว์ ด้วยการปักไม้ไผ่แหลมๆ ไว้ข้างใต้น่ะ”

เสียงฟ้าร้อง และฝนก็เริ่มตกแรงขึ้น หฤษฎ์เดินวนรอบตัวโศรยา ทำท่าจะบีบคอแล้วปล่อยหันหลังให้ ฝนตกแรงเปียกหน้าตาหฤษฎ์ หฤษฎ์รู้สึกว่าไม่มีเสียงโต้ตอบก็หันกลับไป เห็นโศรยาหน้าแดงก่ำก็ตัดสินใจช่วยหญิงสาวหลุดมา และลากเธอมาในถ้ำเล็กๆ โศรยาตื่นตา ตัวยังเปียก ผมลู่เรียบเพราะฝนชโลมมาตลอดทาง หฤษฎ์จูงกึ่งผลักให้โศรยานั่งลงที่ก้อนหินใกล้ผนังถ้ำด้านหนึ่ง

“พาฉันมาทำไมที่นี่”

“ก็หลบฝนไง ผมไม่ได้ห่วงคุณหรอกนะ อย่าเข้าใจผิด ผมห่วงตัวเอง เพราะยังมีงานต้องทำ มีชีวิตลูกน้องที่ต้องรับผิดชอบอีกมากมาย ผมต้องรักษาสุขภาพของผม”

“ฉันยังไม่ได้พูดอะไรเลย ทำไมต้องร้อนตัว หรือว่านายคิดอะไรกับฉัน”

โศรยาแกล้งพูด ลืมไปว่าตัวเองอยู่ในสภาพเปียกผ้าแนบเนื้อ หฤษฎ์มองอย่างชายมองหญิง โศรยารู้สึกได้ก็รีบห่อตัวเบี่ยงหลบ

“คุณต่างหากที่ร้อนตัว ทั้งเปียกทั้งรัดขนาดนั้น ผู้ชายที่ไหนบ้างจะไม่คิด คงจะมีผมนี่แหละที่ถ้าจะคิด ก็คิดสมเพช”

“นายมาสมเพชอะไรฉัน”

ก็สมเพชเวทนา ที่คุณต้องมาแห้งเหี่ยวตายอยู่ที่นี่ ทั้งๆ ที่มีเนื้อหนังมังสา จริตมารยามากพอจะใช้หลอกผู้ชายได้อีกตั้งค่อนประเทศ”

“ขอบใจนะ ที่ชม”

“ผมด่าคุณต่างหาก”

“อ๋อ เหรอ ทำไมฉันไม่เห็นรู้สึก หรือจะเป็นเพราะฉันชินกับคำพูดของคนปากร้ายใจเน่าอย่างคุณมานานแล้วมั้ง”

“ผมก็ชินกับการหนีไปไหนไม่รอดของคุณแล้วเหมือนกัน”

“ศันสนีย์ คุณรู้มั้ย ว่าผมเพิ่งยกโทษให้กับคนงานที่ทำผิดร้ายแรง แค่เขารู้ตัวว่าผิด แล้วก็รับปากจะกลับตัว คุณลองเป็นแบบคนงานของผมบ้างมั้ย

“ก็สารภาพผิดน่ะสิ ถ้าเพียงแค่คุณจะคุกเข่าสารภาพบาปที่คุณทำไว้กับหริณ ยอมรับว่าคุณเป็นผู้หญิงเลวๆ คนหนึ่งที่ผิดไปแล้ว และจะไม่ทำอย่างนั้นกับใครอีก บางที ผมจะปล่อยคุณไป”

หฤษฎ์ผายมือลงตรงพื้นเบื้องหน้า โศรยามองอย่างหยิ่งในเกียรติ

“ฉันเนี่ยนะ จะต้องคุกเข้าอ้อนวอนขออิสรภาพ เชอะ มาถึงนาทีนี้แล้วให้ฉันตายตรงนี้ และเดี๋ยวนี้ ยังดีกว่าให้ฉันขอร้องนายเลย ฉันจะไม่ขอโทษในสิ่งที่ฉันไม่ได้ทำ!”

“ยังไงฉันก็จะหนี”?”



“คุณนี่มันยั่วโมโหผมจริงๆ”

โศรยาเชิดหน้าจ้องหฤษฎ์ “นายแค่ผู้ชายดื้อด้านอวดดีคนหนึ่งเท่านั้นแหละ”

“แล้วคิดว่าผมจะเหมือนผู้ชายคนอื่นๆ ตรงไหนบ้างมั้ย”

โศรยาหมดอารมณ์จะเถียง สะบัดหน้าใส่ เดินหนี หฤษฎ์ตามดึงแขน “ปล่อยนะ”

“ถึงปล่อย คุณก็ออกไปไหนไม่ได้ ข้างนอกฝนตกหนัก”

“ผมรู้!” หฤษฎ์กระชากเสื้อโศรยาเพื่อดึงตัวกลับ แต่เสื้อกลับขาดแควก! โศรยาตกใจ หันมาปิดเนื้อตัว “ผมว่าคุณตั้งใจให้ผมกระชากนะ โศรยา”

โศรยาเงื้อมือจะตบ หฤษฎ์จับมือไว้ทั้งสองมือ “ยังไม่ได้พิสูจน์เลย ว่าผมเหมือนกับผุ้ชายคนอื่นๆ ที่คุณผ่านมามั้ย”

หฤษฎ์ดึงโศรยามาชิด ซุกไซ้ไปทั้งหน้าตาเนื้อตัว ซึ่งถูกโศรยาดิ้นรนปัดป้อง “นี่เหรอ ลีลาที่ทำให้นายหริณหลง”

“ฉันเกลียดคุณมากกว่าฝน”

“คราวก่อนในห้องผม คุณไม่ยอม คราวนี้บรรยากาศธรรมชาติ ฝนตกหนักข้างนอก ช่วยทำอารมณ์ได้ดีขึ้นมั้ย”

หฤษฎ์ผลักโศรยาไปนั่งกอง ข้างกองไฟเก่าๆ ที่มอดแล้ว เธอดิ้นรนร้องให้บุญทายช่วย หฤษฎ์หันขวับ โศรยาฉวยจังหวะนั้น เงื้อไม้ด้วยสองมือ ฟาดลงซอกคอใกล้กกหูหฤษฎ์อย่างจัง หฤษฎ์ทรุดฮวบ!

โศรยาตื่นเต้น ตกใจ ทิ้งไม้ วิ่งออกนอกถ้ำไป เหลือแต่หฤษฎ์นอนสลบนิ่งอยู่กลางถ้ำ เธอวิ่งฝ่าฝนออกจากถ้า ยืนมองรอบตัวแล้วตัดสินใจวิ่งไปทางหนึ่งอย่างขวัญเสีย

................................

จำเลยรัก ตอนที่ 9

“ปล่อยนะ” โศรยาวิ่งหนีออกไปเจอกับกาหยู เธอดีใจที่กาหยูยังไม่ตาย เธอบอกให้มันพาหนี แต่มันไม่รู้เรื่อง โศรยาตัดสินใจเดินหนีจากไป เธอบุกป่าไปเรื่อยๆ แต่กลับเดินหลงวนกลับมาที่เดิม ฝนหยุดตกแล้ว เธอเห็นนายใบ้ก็รีบหลบ

โศรยาหลบเข้าไปปากถ้ำก็เจอกับกาหยู เธอเห็นร่างของหฤษฎ์นอนไม่ได้สติ ก็เริ่มสองจิตสองใจว่าช่วยเขาดีมั้ย แต่ก็ตัดสินใจจะเดินออกนอกถ้ำ สุดท้ายก็ชะงักหันกลับไป “



ถ้าปล่อยให้เขาตาย เราก็คงไม่ต่างอะไรกับพี่ศันสนีย์ แม่ขา หนูควรจะทำยังไงดี”



นายใบ้เดินมาเจอกับกาหยูที่ยืนเต้นเรียกร้องความสนใจอยู่ นายใบ้เดินหนีไม่สนใจเพราะยังห่วงการตามหาโศรยา กาหยูรีบไปดักหน้า ทันใดนั้นบุญทายก็โผล่มาอีกคน กาหยูเห็นก็แยกเขี้ยวใส่ แล้วลากนายใบ้ไป



ภายในถ้ำ หฤษฎ์เริ่มรู้สึกตัว เขาลืมตามาเห็นโศรยานั่งดูอาการเขาอยู่สะดุ้ง ทั้งคู่ประสานสายตากัน โศรยาจะลุกหนี แต่หฤษฎ์คว้าแขนได้ทันถามว่าเธอตีหัวเขา จะฆ่าเขาหรือ โศรยาบอกว่าเธอแค่ป้องกันตัว แล้วร้องให้เขาปล่อย



ถ้าจะหนี ทำไมไม่ไปตอนที่ผมสลบ ตอนนี้หมดโอกาสแล้ว คุณนี่ไม่ฉลาดเลยนะ”หฤษฎ์พยายามยกตัวขึ้น เลยรู้สึกเจ็บแผล โศรยากระตุกมือออกแล้วลุกพรึ่บ หฤษฎ์ไม่ทันตั้งตัวก็หัวร่วงลงไปโดนพื้น เจ็บและโกรธ แต่รีบคว้าตัวโศรยาไว้จนโศรยาหน้าคะมำกลับลงมา ต้องใช้มืออีกข้างท้าวพื้นไว้ ก่อนที่จะทาบทับลงมาบนตัวหฤษฎ์ สองคนสบตากันในระยะใกล้

“หรือว่าเป็นห่วงผม เพราะถ้าผมตาย คุณก็จะกลายเป็นฆาตกรฆ่าทั้งพี่ทั้งน้อง”

“ฉันไม่ได้ฆ่าน้องคุณ แต่กับคุณน่ะ! เมื่อกี้ ฉันกำลังจะไปหาก้อนหินมาทุบกะโหลกคุณให้เละต่างหาก”

“จริงเหรอ?”

หฤษฎ์รั้งร่างโศรยาลงมาอีก โศรยาดิ้นผลัก เอาฝ่ามือยันหน้าหฤษฎ์จนหงาย “โอ๊ย!”

โศรยาฉวยโอกาสใช้เข่ายันตัวหฤษฎ์เพื่อลุกขึ้นจนได้ จังหวะนั้น ใบ้วิ่งเข้ามา โดยมีกาหยูร้องเจี๊ยกจ๊ากมาด้วย โศรยาหลบเข้าไปทางหลืบถ้ำ เตรียมหนี กาหยูวิ่งมาหาหฤษฎ์

“กาหยู!”

ใบ้เห็นเจ้านายนอนเค้เก้พยายามลุก ก็ตรงมาหาหฤษฎ์ด้วยความเป็นห่วง หฤษฎ์เจ็บแผลที่หัว โศรยาวิ่งอ้อมพรวดจะสวนออกไป หฤษฎ์สั่งให้ใบ้จับตัวไว้ ใบ้ไปคว้าตัวโศรยาที่วิ่งไปเกือบถึงปากถ้ำ ดึงกลับมาได้ โศรยาพยายามดิ้นหนี แต่ไม่หลุด หฤษฎ์ลุกขึ้นมาจ้องหน้าโศรยาบอกว่าเธอหนียังไงก็ไม่รอดมือเขาไปได้ โศรยาจำต้องยอมทำตามคำสั่ง

พอกลับมาถึงกระท่อมของโศรยา หฤษฎ์บอกว่าต่อไปเขาจะมานอนค้างที่กระท่อม โศรยาตกใจรีบค้าน แต่เขาไม่ฟังเสียงสั่งให้ใบ้ไปขนเครื่องนอนมา

ที่กรุงเทพฯ ศันสนีย์จำได้ว่าธวัชชัยกลับมาวันนี้จึงแอบไปเซอร์ไพร้ส์ที่คอนโดของธวัชชัย ทำให้ชนิดาที่อยู่กับธวัชชัยต้องหลบออกมาจากคอนโด โดยให้ธวัชชัยพาศันสนีย์ไปชมวิวที่ระเบียง

คืนนั้นโศรยาเดินหงุดหงิดอยู่ข้างเตียง ขณะที่หฤษฎ์นอนสบายทั้งที่ตัวมอมแมม เธอมองแล้วอดบ่นไม่ได้ หฤษฎ์หันหลังอมยิ้มสะใจที่ได้คุมนักโทษอย่างใกล้ชิด เขาได้ยินเสียงบุญทายโวยวายอยู่หน้ากระท่อม จึงลุกไปดู โศรยาอดไม่ได้ตามมาดูบ้าง

“เมียนายเขาต้องหาว่านายคิดจะมาทำอะไรฉันแน่ๆ”

หฤษฎ์หันมองโศรยา “อยากให้ทำรึยังล่ะ?”

โศรยาผงะถอยห่าง “อย่านะ ฉันยอมตายตรงนี้เลย แหวะ ไม่อาบน้ำ ตัวเหม็นอย่างกับขยะ”

“ปล่อยฉันนะ นายตัวเหม็น ปล่อย”

“อ้อ แปลว่าถ้าหายเหม็น ก็อาจเป็นไปได้”

โศรยาโกรธ ออกแรงใช้สองมือผลักหฤษฎ์ออกมาพ้นประตูกระท่อม แล้ววิ่งกลับเข้าไป หฤษฎ์เซจะตาม แล้วกลับหยุดคิด พอดีใบ้วิ่งกลับมาคนเดียว หฤษฎ์หันไปมองและสั่งให้ใบ้พาบุญทายไปให้พ้นๆ

เช้าวันใหม่ โศรยานั่งซุกข้างเตียง จ้องมองหฤษฎ์ที่นอนหลับสบาย พอหฤษฎ์ขยับตัว โศรยาก็ผวา

“โอย หลับสบายดีจริงๆ อ้าว ตื่นแล้วเหรอ”

“ทำไมล่ะ กลัวผมปล้ำ หรือว่านั่งอารมณ์ค้างหงุดหงิดที่ผมไม่ทำอะไร!”

โศรยาขว้างหมอนและของใกล้มือใส่หฤษฎ์ หฤษฎ์หลบได้ ลุกไปที่ประตู พอเปิดออกก็เห็นใบ้ยืนรอ หฤษฎ์เห็นใบแก้วกำหนึ่งในมือใบ้ก็รีบคว้าไว้ เบี่ยงตัวหันมามองโศรยา พูดเสียงเนือยๆ

“ใบ้ นายพาคุณนายสะอาดไปล้างหน้า แล้วก็ทำข้าวต้มให้ฉันกินหน่อยสิ”

โศรยาลุกพรึ่บ เดินมาเบียดกระแทกหฤษฎ์ออกไป หฤษฎ์บุ้ยให้ใบ้ตาม ตัวเองมองใบแก้วในมือ เขาเด็ดใบแก้วเคี้ยวๆ เต็มปาก พอจัดการหมดทั้งกิ่งก็โยนก้านเปล่าๆ ทิ้งลงหน้าต่าง แล้ววิ่งกลับไปนอนห่มผ้า

โศรยาทำความสะอาดตัวเรียบร้อยก็ต้มข้าวต้มบอกให้นายใบ้ไปเรียกหฤษฎ์ นายใบ้ไม่ยอมไปคนเดียว เธอจึงเข้ามาด้วย แล้วก็เห็นหฤษฎ์นอนห่มผ้าหนาวสั่นหน้าแดง เธอเอื้อมมือมาอังหน้าผากก็รู้ว่าตัวหฤษฎ์ร้อนมาก

“ฉันว่าแล้ว เห็นมั้ย แผลนายอักเสบจนไข้ขึ้น บาดทะยักรึเปล่าก็ไม่รู้”

โศรยาหันหาใบ้ ตอนนี้ใบ้หายไปแล้ว “นายหฤษฎ์ นายต้องไปหาหมอนะ แต่ว่า ดี ตายซะได้ก็ดี”

โศรยาขยับถอยออก หฤษฎ์คว้ามือไว้ “ปล่อยนะ” หฤษฎ์ส่ายหน้า “ปล่อย ฉันจะไปเรียกใบ้ให้เอาน้ำท่ามาเช็ดตัวให้”

หฤษฎ์ค่อยๆ ปล่อยมือโศรยา โศรยามองหฤษฎ์อย่างเหม็นๆ เดินออกประตูไป พอลับร่างโศรยา หฤษฎ์อมยิ้มเปิดผ้าห่มออกมากระพือลม

“ใบ้แก้วนี่ ได้ผลดีจริงๆ ว่ะ อยากรู้นัก ว่าคุณจะทำยังไง ศันสนีย์”

โศรยาออกไปหานายใบ้แต่ไม่เจอ เพราะนายใบ้ออกเรือไปกับบุญทาย โศรยาจำเป็นต้องใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดหน้าตาให้หฤษฎ์ หฤษฎ์ผุดลุก โศรยากระเถิบหนี หฤษฎ์ตะครุบตัวไว้ แล้วแกล้งทำหมดแรง ล้ม ดึงโศรยาล้มมาด้วย

“ใครจะไปนอนลง”

โศรยาแกะมือหฤษฎ์ที่ทำเป็นระทวยไม่มีแรงออกได้โดยง่าย “ถ้าผมเหม็น คุณก็อาบน้ำให้หน่อยสิ”

“เดี๋ยวให้นายใบ้มาจัดการ ฉันทำให้แค่นี้ก็บุญแล้ว จะกินมั้ยข้าวน่ะ”

หฤษฎ์ทำเป็นสำออย ปรือตาพยักหน้า โศรยาหมั่นไส้เดินออกไปเอาข้าวมาป้อนให้พลางบ่นว่าเมื่อไหร่ใบ้จะกลับมาสักที

“เดี๋ยวก็มา ถ้าเบื่อ ผมกินเองก็ได้” หฤษฎ์แย่งถ้วยข้าวต้ม

“อย่าเรื่องมากน่า เอ๊า ดูสิ เลอะอย่างนี้ ฉันจะทำยังไง ยุ่งจริงๆ”

หฤษฎ์ทำท่าจะช่วยเก็บข้าวต้มที่หกรดผ้าห่ม แต่หมดแรง โศรยาปัดมือออกให้เขานอนเฉยๆ โศรยาป้อนข้าวต้มหฤษฎ์ไม่ปรานีปราศรัย หฤษฎ์โอดโอย

โศรยาเช็ดเนื้อตัวที่เปล่าเปลือยท่อนบนของหฤษฎ์ด้วยท่าทีขยะแขยง หฤษฎ์แอบมองอย่างพอใจที่ได้แกล้ง บางทีก็ทำเป็นโยกตัวอย่างตุ๊กตาล้มลุก พาดเอนมาหาโศรยา

“นายนี่บทจะอ่อนแอก็เหมือนเด็กเลยนะ นั่งตรงๆ! แล้วก็จำไว้ด้วยนะ ว่าฉันช่วยอะไรนายไว้ นี่เป็นความสมเพชเมตตา ไม่ได้ทำเพราะชั้นเป็นจำเลยต้องโทษอยู่ที่นี่”

หฤษฎ์หลับตาทำเสียงอืออาในคอ โศรยาจะลุกหฤษฎ์พาดมือมาดึงไว้

“ฉันจะไปเอาเสื้อมาให้เปลี่ยน อยู่อย่างนี้เดี๋ยวปอดบวมตาย รอเดี๋ยว”

โศรยาออกไป หฤษฎ์ชะเง้อตาม “ทำไมไม่หนีวะ สงสัยกลัวไปไม่รอด”

หฤษฎ์หันกลับไปทางหน้าต่าง เห็นกิ่งใบแก้วยื่นขึ้นมา รีบถลาไปหาหน้าต่างทันที ใบ้ยื่นใบแก้วทั้งกำให้ เขารีบกินแล้วยัดกิ่งแก้วไว้ใต้หมอน ก่อนที่โศรยากลับเข้ามาพร้อมเสื้อ

“ไข้ลดแล้ว นายน่าจะลุกขึ้นมาสวมเสื้อเอง”

หฤษฎ์พยายามตะกายลุก โศรยารำคาญ ดึงตัวมาสวมเสื้อให้ทุลักทุเล

“ตัวยังกะม้า ถ้านายไม่รีบหาย ฉันจะหนีอีก คอยดู”

โศรยาผลักหฤษฎ์หงายหลังตึงลงไป จ้องหน้าอย่างเหนื่อยๆ ที่ใช้แรงไปเยอะ

คืนนั้นหฤษฎ์นอนห่มผ้าหลับสบาย โศรยานอนลืมตา ผุดลุกขึ้นมายืนมอง แตะหลังมือที่หน้าผากหฤษฎ์ เห็นตัวร้อนก็หยิบผ้ามาชุบน้ำเช็ดตัวใหม่ หฤษฎ์รู้สึกถึงสัมผัสที่เบามือ หรี่ตามอง แล้วหลับตาพริ้มสบาย โศรยานั่งเฝ้าฟุบอยู่ข้างๆ หฤษฎ์ลืมตาตื่นมาเห็น สะดุ้ง รู้สึกผิด

เช้าวันใหม่ แสงเช้าสาดเข้ามาในกระท่อม โศรยารู้สึกตัวลุกจากที่นั่งฟุบข้างหฤษฎ์ หฤษฎ์ยังหลับสบาย เธอรีบลุกขึ้นยืน คว้ากะละมังออกจะเอาไปเท แล้วก็ชะงัก หันกลับมามองที่หมอนหฤษฎ์เห็นใบแก้วกับกิ่งโกร๋นๆ ก้านหนึ่งแพลมจากใต้หมอน โศรยาเอื้อมมือหยิบพิจารณาดู

“นี่มันใบแก้วนี่!” โศรยานิ่งคิด ครู่หนึ่งก็กำกิ่งแก้วแน่น โกรธที่ถูกหลอก

โศรยาอาบน้ำแล้ว ตรงมาที่หม้อข้าวต้ม หยิบกระปุกเกลือเทลงไปด้วยความโมโห

“ตัวร้อนเพราะเคี้ยวใบแก้ว คิดว่าลูกชาวสวนอย่างฉันโง่เหรอ นายหฤษฎ์”

โศรยากระแทกกระปุกเกลือวาง หยิบน้ำปลาเทกระฉอกลงไปอีก


.................................


จำเลยรัก ตอนที่ 10

หฤษฎ์ครึ่งนั่งครึ่งนอนให้โศรยาป้อนอยู่บนที่นอน แล้วก็สำลักพรวดเพราะเค็ม โศรยาหันไปหยิบน้ำมาส่งให้ เขาจิบแล้วก็บ้วนทิ้งทันที โศรยาเด้งตัวหนียิ้มเยาะ

“นี่มันน้ำทะเลนี่นา”

“ก็ใช่สิ ปากรู้รสอย่างนี้ แสดงว่าหายป่วยแล้ว”

“คุณแกล้งผมทำไม”

“แล้วนายล่ะ แกล้งป่วย ทำตัวร้อนเป็นไข้ทำไม”

“คุณรู้ได้ยังไง ว่าผมแกล้ง ผมตัวร้อนจริงๆ ไม่รู้สึกเหรอ”

โศรยาคว้ากิ่งแก้วที่เหลือใบหรอมแหร็มมาเขวี้ยงใส่หน้าหฤษฎ์ “นายเคี้ยวใบแก้ว ห่มผ้าคลุมโปงให้ตัวร้อน หลอกให้ฉันอดหลับอดนอนเฝ้าไข้ปลอมๆ ของนาย นายมันทุเรศ หลอกลวง มารยา”

“ผมก็ อยากจะลองใจคุณดูไง ศันสนีย์”

“ลองเพื่อให้เห็นว่าฉันโง่งั้นเหรอ ขอโทษนะ คนเรามันไม่โง่ไปซะทุกเรื่องหรอก ฉันอาจจะโง่เง่า หลงทิศหลงทาง หนีไปไม่พ้นจากที่นี่ซักที แต่ฉันก็พอมีความรู้อยู่บ้างหรอก ว่าไอ้ที่ตัวนายร้อนจี๋เนี่ย เพราะสมุนนายส่งใบแก้วมาให้กินเป็นเสบียงเลี้ยงไข้ ลูกไม้นี้ ฉันใช้กับแม่มาตั้งแต่เด็กๆ แล้ว”

“งั้นคุณก็เป็นผู้ดีเจ้ามารยามาตั้งแต่เด็ก”

“ผู้หญิงอย่างฉันมีมารยามันไม่แปลกหรอก แต่ผู้ชายอย่างนายสิ ทำอย่างนี้ น่าอาย”

“ผมไม่อาย เพราะสองวันนี้ ผมมีผู้หญิงปรนนิบัติ เช็ดตัว ป้อนข้าว นอนเฝ้าไม่ห่างไปไหน เป็นทาสผู้ซื่อสัตย์ ดีจริงๆ”

หฤษฎ์ยิ้มเยาะๆ หัวเราะขำๆ ยั่วให้โศรยาโกรธจนพูดไม่ออก หันไปคว้าของใกล้มือเขวี้ยงใส่หน้า หฤษฎ์แทบหลบไม่ทัน โศรยาสะบัดหน้าเดินปึงๆ ออกไปจากกระท่อม หฤษฎ์หน้าเหรอ แล้วก็ระเบิดหัวเราะขำออกเป็นครั้งแรกตั้งแต่เกิดเรื่องหริณ

โศรยาโยนผลไม้ให้กระรอกพวงชมพู กาหยูเข้ามานั่งข้างๆ หฤษฎ์ตามมาตอแยตลอดเวลา

ที่กรุงเทพฯ ศันสนีย์ยิ้มหวานพาธวัชชัยเดินเข้าบ้าน เธอเลือกพาธวัชชัยมาที่บ้านวันที่สายสมรอยู่บ้านคนเดียว ชายหนุ่มทำตัวน้อมโน้มเป็นที่พอใจของสายสมร แถมยังขออนุญาตพาศันสนีย์ไปค้างต่างจังหวัดบ้างในเรื่องงาน สายสมรก็ไม่ว่าอะไร แต่เธอกับอึ้งเมื่อศันสนีย์บอกว่าธวัชชัยมีเรื่องจะคุยด้วยต่ออีกนิดว่า

“คุณอาครับ ผมรักลูกสาวคุณอา แต่ว่า ผมไม่มีญาติผู้ใหญ่ที่ไหนจะเป็นไรมั้ยครับ ถ้าผมจะเป็นเถ้าแก่ให้ตัวเอง มาสู่ขอคุณศันจากคุณอา”

สายสมรอึ้ง ไม่นึกว่าจะมีคนมาจู่โจมขอลูกสาวดื้อๆ แบบนี้ ศันสนีย์ยิ้มรื่นอยู่ข้างหลังแม่ สายสมรนำเรื่องนี้ไปปรึกษากับศุภฤกษ์ แต่ศุภฤกษ์ค้านว่าเร็วไป แล้วก็มีลูกสาวคนเดียว ขอเลือกหน่อย

ด้านหฤษฎ์ก็ได้รับโทรศัพท์จากกวินว่าธวัชชัยติดต่อมาเรื่องจะพานักท่องเที่ยวมาดูฟาร์ม หฤษฎ์บอกว่าถ้าสถานการณ์ของฟาร์มฟื้นตัวเร็วก็จะรับ หลังจากวางสายหฤษฎ์ไปที่ฟาร์ม โดยพาโศรยาไปด้วย

โศรยาตกเป็นเป้าสายตาของหวาน ทิมและคนงาน ที่พากันซุบซิบว่าโศรยาคือผู้หญิงคนใหม่ ทุกคนชื่นชมชอบเธอโดยไม่รู้เห็นว่าหฤษฎ์กลั่นแกล้งเธอทุกครั้งเมื่อมีโอกาส

“ให้ฉันตามติดอยู่เนี่ย ไม่เบื่อรึไง?!”

“ไม่เบื่อ! คุณต้องอยู่ใกล้ผมตลอดเวลา จำไว้!”

หฤษฎ์ยืนมองออกไปนอกฝั่ง ก้มดูน้ำ แล้วหันมาหาโศรยาถอดเสื้อ โศรยารีบถามว่าเขาจะทำอะไร หฤษฎ์บอกว่าเขาจะดำลงไปดูมุกข้างใต้ ส่วนเธอไม่ต้องลงโศรยาถอนใจโล่งอก หารู้ไม่ว่าหฤษฎ์สั่งให้คนงานหญิงสองคนคอยประกบเธอตลอดเวลาแทน

เย็นวันนั้น หฤษฎ์กับโศรยาอยู่กินอาหารเย็นที่ฟาร์ม โศรยาไม่ยอมนั่งกับหฤษฎ์ แต่กลับไปนั่งกินข้าวกับคนงาน บุญทายซึ่งฮึดฮัดไม่พอใจตั้งแต่กลางวัน แต่ทำอะไรไม่ได้ เธอทำได้เพียงร่อนจานข้าวลงทะเล

คืนนั้นหฤษฎ์ค้างที่ฟาร์ม โศรยาเดินเข้ามาร่วมวงคุยกับทิมและหวาย ทิมเรียกเธอว่าคุณผู้หญิง โศรยาขอให้เรียกเธอว่า โศ

“คุณโศ ชื่อเล่นเหรอครับ เมื่อเช้าคุณหฤษฎ์บอกว่าคุณชื่อศันสนีย์”

“ช่างเขาเถอะ เขาจะเรียกฉันว่าอะไรก็ช่าง แต่ฉันอยากให้คนที่นี่เรียกฉันว่าโศแล้วกัน”

“คุณโศมีอะไรจะใช้พวกเรารึเปล่าครับ”

โศรยายิ้มดีใจที่มีคนเรียกชื่อเธอตรงๆ เธอคุยเรื่องงานกับหวานและทิม หวายบ่นว่าตั้งหริณตาย นายของเขาก็ไม่ค่อยยิ้มเลย แต่วันนี้ทิมมาบอกว่าเห็นนายหัวเราะ ทุกคนเลยพลอยดีใจ ทิมแทรกขึ้นว่า

“สงสัย เพราะมีคุณโศมาด้วย”

โศรยาออกอาการเก้อ แอบยิ้มเยาะๆ ในเงาสลัว “ฉันคงเป็นตัวตลกในชีวิตเขามั้ง”

โศรยาเดินเตร่ไปริมน้ำ มองเพ่งไปในทะเล หาทางหนีทีไล่อีก เธอหลอกถามหวายกลางคืนจะไปในเมืองได้มั้ย หวายบอกว่านายสั่งห้ามขับเรือกลางคืน

โศรยาย้อนถามอีกว่า “แล้วถ้าเป็นกลางวัน”

เสียงหฤษฎ์ดังเข้ามาทันที “คุณจะไปไหนกับคนอื่นไม่ได้ นอกจากผม!”

หฤษฎ์เดินมาข้างหลัง สามคนหันไป โศรยาเจื่อน “จำไว้เลยนะ หวาย ทิม บอกทุกคนด้วย”

หฤษฎ์ลากโศรยามาถึงหน้าบ้านก็ผลักเข้าไปข้างในอย่างหมั่นไส้

“เผลอแป๊บเดียว ออกไปลอยหน้าคุยกับคนงาน ไม่ได้คิดเลยนะ ว่านั่นน่ะ ผู้ชายทั้งนั้น หรืออยากจะหนีจนคิดจะแลกด้วยอะไรก็ได้”

“ถ้าฉันจะแลก ก็คงไม่รอให้นายจับได้หรอก”

“ระวังจะเสียตัวฟรี”

“ฟรีหรือคุ้ม มันก็ตัวของฉัน”

“ปากเก่งจริงนะ มันน่า” หฤษฎ์ดึงแขนโศรยาเข้ามาชิดตัว รวบกอด

โศรยาดิ้นรนหนี “อย่านะ!”

“ประเดี๋ยวจะลากออกไปจูบโชว์คนงานซะหรอก”

“นายจะทำทุเรศกับฉันไปถึงไหน”

“ไหน? ทุเรศ ผู้ชายกับผู้หญิง อยู่บ้านเดียวกัน ห้องเดียวกันน่ะ มันจะทุเรศอะไรนักหนา ก็แค่นัวเนียทำอะไรกันบ้าง แบบคุณกับนายหริณน่ะ”

“ฉันไม่เคยทำอะไรกับหริณ”

“งั้นมาลองทำกับพี่นายหริณสิ ผมน่ะมีประสบการณ์เรื่องผู้หญิงดีกว่าน้องเยอะ ไม่ต้องดิ้น”

หฤษฎ์ลากผลักโศรยาจนหงายหลังลงไปที่เตียง โศรยากระเสือกกระสนหนี หฤษฎ์ลากขามาจนตกเตียง กอดฟัด โศรยาทั้งทึ้งทั้งถีบ หฤษฎ์ฉุดกลับไปที่เตียงอีก

“ถ้าคุณร้อง คุณจะมีผัวทีเดียวเป็นสิบ”

โศรยาโกรธจนกำผ้าปูที่นอนแน่น ทำเป็นจนแต้ม หฤษฎ์โถมตัวลงทาบ โศรยาทำเป็นยอม แล้วงับอย่างแรงที่หัวไหล่ หฤษฎ์ร้องลั่น หฤษฎ์ทุบที่นอนเหมือนนักมวยปล้ำโดนคู่ต่อสู้เล่นงาน โศรยาไม่ยอมปล่อย หฤษฎ์จับหัวโศรยาออกจนได้ ผละตัวหนีลุกยืน

“ร้องทำไม ไม่อายคนงานเหรอ”

หฤษฎ์คลำไหล่ตัวเอง เจ็บจนหน้าเหยเก สะอึกจะเข้าไปกระชากโศรยาอีก แต่โศรยาไวพอที่จะคว้าโป๊ะไฟใกล้มือเป็นอาวุธ ตั้งการ์ดด้วยหน้าตาเอาจริง

“เข้ามาสิ เข้ามา นอกจากไหล่จะขาดแล้ว ฉันจะฟาดให้หัวนายหลุดเลย”

หฤษฎ์กัดฟันด้วยความเจ็บ ชี้หน้าโศรยา “ฝากไว้ก่อนเถอะ วันหนึ่ง คุณต้องเสร็จผม”

หฤษฎ์ถอยออก พอพ้นประตูโศรยาก็พรวดไปปิดปัง หฤษฎ์ทุบตอบกลับดังปัง โศรยายืนหอบ มั่นใจว่าจะไม่มีวันยอม

ที่โรงงานมุกในตัวเมือง เด่นมาเรียนและทำงานอยู่ในความดูแลของกวิน เด่นชอบซื้อหนังสือแฟชั่นมาดู กวินเห็นภาพศันสนีย์ในหนังสือเธอสวมสร้อยมุกที่ซื้อไปจากร้านเขา กวินดูและอ่านชื่อ ศันสนีย์ ศุภอรรถ

กวินมาที่ฟาร์มมุก หลังจากพูดคุยกับหฤษฎ์เรื่องงานแล้ว กวินก็หยิบหนังสือแฟชั่นเปิดให้ดูรูปศันสนีย์ แต่หวายวิ่งหน้าตาตื่นมาบอกว่าโศรยาหายตัวไป หฤษฎ์รีบวิ่งไปตาม กวินเองก็ปิดหนังสือแล้วตามไปด้วย

หฤษฎ์พบโศรยาตะเกียวตะกายอยู่ในน้ำกำลังจะจม เขากระโดดลงไปช่วยเธอ หวาย ทิมและคนงานพากันยืนก้มหน้ากลัวหฤษฎ์ทำโทษ หวายยอมรับผิดที่ให้หญิงสาวไปเดินตรงนั้น โศรยารีบห้ามว่าอย่าว่าหวาย เธอโง่เอง

“รู้ตัวก็ดีแล้ว คราวหน้าถ้าอยากออกไปให้พ้นที่นี่ บอกผม”

โศรยาประหลาดใจที่หฤษฎ์พูดเหมือนจะปล่อยเธอ แต่หลังจขากเขาบอกให้ทุกคนแยกย้ายไป เขาก็เย้ยเธอว่าถ้าเขาปล่อยเธอคงว่ายน้ำไปเอง โศรยาแค้นจนพูดไม่ออกที่เขาทำให้ดีใจเก้อ เลยเอาผ้าขนหนูขว้างใส่หน้า หฤษฎ์หัวเราะชอบใจก่อนจะเดินออกไป โศรยาเห็นหนังสือก็หยิบมาดู แล้วเห็นภาพศันสนีย์ เธอนิ่งคิดแล้วตัดสินใจไม่ให้หฤษฎ์ได้เห็นภาพนี้ เพราะเหมือนหฤษฎ์จะทำร้ายผู้มีพระคุณของเธอ เธอฉีกหนังสือที่มีภาพศันสนีย์เป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย แล้วโปรยลงน้ำไป

บ่ายวันนั้นกวินมาเปิดหนังสือดูก็แปลกใจที่ภาพศันสนีย์หายไปแล้ว ขณะที่หฤษฎ์เองก็ไม่สนใจบอกให้กวินมาช่วยตีราคามุกมีตำหนิก่อน

เย็นวันเดียวกันกวินหิ้วกระเป๋าเอกสารจะลงเรือกลับเข้าเมือง หฤษฎ์จูงแขนโศรยามาบอกกวินว่าเขาว่างๆ จะไปที่โรงงาน กวินถามว่าแล้วศันสนีย์จะไปด้วยกันหรือฝากซื้ออะไรไหม หฤษฎ์บอกไม่ต้อง โศรยาพูดพร้อมว่าไปด้วย กวินงงแล้วรีบเดินเมื่อหฤษฎ์โบกมือไล่ โศรยาหันหลังเดินกลับถึงบ้านพัก หฤษฎ์ก้าวตามติดมาเรียกไว้ว่าถ้าเธอตุกติกหนีเขาจะตามล่าสุดหล้าฟ้าเขียวแน่

“ถ้าวันไหนฉันไปพ้นจากที่นี่ได้ ฉันก็จะไปสุดหล้าฟ้าเขียวเหมือนกัน”

โศรยายื่นหน้าท้าทาย แล้วรีบสะบัดหน้าเข้าข้างในไป ทิ้งให้หฤษฎ์ยืนมองขัดเคืองใจ

ฟ้าวันใหม่ โศรยานั่งจับเจ่าเพราะไม่รู้จะไปไหน ขณะที่หฤษฎ์ดำน้ำกับคนงาน เย็นวันนั้นเขากลับเข้าบ้านก็หยิบสร้อยที่มุกทุกเม็ดบิดเบี้ยวไม่มีราคาให้เธอ

“นึกว่าให้ของกำนัลแล้วฉันจะหายโกรธในสิ่งที่คุณทำกับฉันงั้นเหรอ”

“จะคิดยังไงก็แล้วแต่คุณ”

โศรยาจ้องหน้าหฤษฎ์อย่างไม่ค่อยไว้ใจ หฤษฎ์รำคาญ คว้าข้อมือมาคาดสร้อยติดตะขอล็อคให้ โศรยามองท่าทางตั้งใจนั้นอย่างอยากจะหยั่งลึกเข้าไปในใจ

“คุณทำอะไรแบบนุ่มนวลๆ เบาๆ มือ เป็นมั่งมั้ยเนี่ย”

“แค่นี้ละ อย่าถอดนะ” หฤษฎ์มองโศรยาแวบหนึ่ง แล้วเดินจากไปไม่มีปี่มีขลุ่ย ทิ้งให้โศรยายืนงงกับสร้อยมุกรอบข้อมือ

โศรยานั่งชันเข่าพิงระเบียงมองออกไปในทะเล ถอนใจคิดถึงบ้าน คิดถึงแม่ หฤษฎ์ยืนมองจากในตัวบ้าน อยากจะใจอ่อน แต่พอคิดถึงหริณอารมณ์ก็เปลี่ยน เดินเครียดตรงออกไปที่ประตู เสียงประตูบ้านแกร๊กเปิดออกมา โศรยาสะดุ้ง หฤษฎ์มองข้อมือโศรยา

“ชอบเหรอ”

“มันก็สวยดีนี่ อัญมณีแห่งท้องทะเล ยากเหลือเกินกว่าจะได้สักเม็ด”

“ใช่ เอาเปลือกหอยมาฝนให้กลม แล้วฝากไว้ในเนื้อหอยจนมันระคายเคือง หลั่งสารมาเคลือบหุ้มทีละนิด อดทนรอนานเป็นปีๆ”

“ถูกหุ้มจนไม่รู้ว่าแกนข้างในเป็นยังไง” โศรยาจ้องหฤษฎ์ ชายหนุ่มเมินไปอีกทาง “ทำไมนายถึงมาทำฟาร์มมุก ทั้งๆ ที่พ่อแม่นายทำเหมือง?”

“ใครเล่าให้คุณฟัง บุญทาย? หรือว่าหวาย?”

“คงไม่ใช่นายใบ้”

หฤษฎ์มองโศรยาอย่างฉุนๆ “ผมทำเพราะผมอยากทำ ชัดมั้ย”

โศรยาส่ายหน้า ไม่เข้าใจ “ตั้งแต่เด็ก นายหริณเขาอยากอยู่ทะเล มากกว่าลำบากอยู่ในป่า สำหรับผม จะแร่ในดิน หรือว่าสินในน้ำ ผมก็หาได้ทั้งนั้น”

“นายไม่เสียดายชีวิตนักเรียนนอกเหรอ”


................................

ไม่มีความคิดเห็น:

Powered By Blogger